ลิเวอร์พูลพ่าย กาลาตาซาราย 0-1 ที่อิสตันบูล ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนสกอร์บอร์ด แต่สะท้อนปัญหาหลายด้าน ทั้งการโรเตชั่น, ความสมดุลทีม, อาการบาดเจ็บ และมาตรฐานการตัดสิน

11 ตัวจริงที่อาร์เน่อจัดมาสร้างความประหลาดใจ โมฮาเหม็ด ซาลาห์นั่งสำรอง, เจเรมี่ ฟริมปงลงปีกขวา และโดมินิค โซโบซไลถูกดันไปแบ็กขวา

เกมยังไม่เข้ากัน ลิเวอร์พูลพยายามต่อบอลจากแดนตัวเอง แต่เจอกับดักเพรสซิ่งของ กาลาตาซาราย จังหวะรุกฝากความหวังได้เพียงการโยนบอลยาวไปให้ อูโก้ เอกิติเก้ ใช้ความเร็วสร้างความกดดัน

อาร์เน่อเปลี่ยนตัวสามคนในนาที 60 แต่เกมยังไม่ต่อเนื่อง พร้อมย้ำว่าการปรับผู้เล่นไม่ได้ขึ้นกับฟอร์ม แต่เป็นเรื่องสภาพร่างกาย
"นักเตะบางคนไม่ได้ซ้อมปรีซีซั่นเต็มที่ เราส่งลงทุกนัดไม่ได้ ถ้าส่งก็เสี่ยงเจ็บ บางครั้งไม่ได้อยากโรเตชั่น แต่จำเป็นต้องทำ"

นักเตะที่ไม่ได้ซ้อมเต็มปรีซีซั่น ได้แก่ อูโก้ เอกิติเก้, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ และ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ส่วน มิลอส เคอร์เคซ ยังไม่พร้อมลงเล่นถี่เหมือนตอนอยู่บอร์นมัธ

จังหวะเสียจุดโทษเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แสดงความแตกต่างระหว่างพรีเมียร์ลีกและฟุตบอลยุโรป อาร์เน่อประชดเล็กน้อยเรื่อง VAR ว่า "ถึงแม้ VAR จะกลับคำตัดสินท้ายเกมก็เถอะ… แต่มันคือสิ่งที่ต้องยอมรับ"

นอกจากสกอร์ที่ไม่เป็นใจ ลิเวอร์พูลยังมีผู้เล่นเจ็บเพิ่ม อลีสซงเจ็บและอาจพลาดเกมเยือนเชลซี ส่วน อูโก้ เอกิติเก้เจ็บเล็กน้อย

การจัดผู้เล่นทดลอง เช่น ขยับ โซโบซไลไปแบ็กขวา และ ฟริมปงขึ้นสูง แสดงว่าอาร์เน่อยังหาสูตรผสมที่ลงตัว แต่เวลาจะเพียงพอไหมยังเป็นคำถาม

สองเกมแพ้ติดสะท้อนว่าลิเวอร์พูลยังไม่สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ ความต่อเนื่องยังไม่มา ความสมดุลยังไม่เจอ และอาการบาดเจ็บเริ่มเข้ามา

ตารางเกมต่อไปจะโหดขึ้น ทั้งเชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และเกมยุโรป ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องหาคำตอบให้เร็ว




“เชลซีกับปริศนาหมายเลข 9 : เสน่ห์ ความหวัง และเรื่องเล่าคำสาปบนหลังเสื้อ

สตีฟ ฟินนีย์ เรื่องราวนักเตะที่สู้เพื่อโอกาสลงสนามเพียงครั้งเดียว

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า