ลูกตั้งเตะ จุดอ่อนที่อาจชี้ชะตาเส้นทางลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูล

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เพิ่งผ่านสัปดาห์ที่ทำให้คำว่า “ลูกตั้งเตะ” กลายเป็นฝันร้ายของแฟนลิเวอร์พูล หลังเกมที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ถูก คริสตัล พาเลซ ลงโทษจากจังหวะเซตเพลย์ทั้งสองประตู ตอกย้ำจุดอ่อนที่ถูกพูดถึงตั้งแต่เปิดซีซั่น

สิ่งที่ทำให้แฟนหงส์เจ็บยิ่งกว่าคือคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่างอาร์เซน่อล ใช้สิ่งเดียวกันเป็นอาวุธ พลิกเกมบุกชนะนิวคาสเซิ่ล 2-1 ส่งผลให้สามแต้มที่หล่นหายของลิเวอร์พูล กลายเป็นแรงผลักให้ปืนใหญ่ไล่กดดันหัวตารางแบบเต็ม ๆ

สถิติชี้ชัด ลิเวอร์พูล ยิงได้เพียง 1 ประตูจากเซตเพลย์ และเสียไปแล้วถึง 4 ลูก ขณะที่อาร์เซน่อลทำได้ 7 ลูกและเสียเพียง 2 ลูก ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความแตกต่างในการใช้ลูกตั้งเตะเป็นอาวุธสำคัญ

อาร์เน่อ เฮดโค้ชลิเวอร์พูล ยอมรับว่าปัญหาไม่ได้อยู่แค่แนวรับหรือการเปลี่ยนฟูลแบ็ก แต่เป็นเรื่องของการทำงานทั้งทีม เขาอธิบายว่าปีที่แล้วทีมแทบไม่เสียประตูจากลูกเซตเพลย์ แต่ปีนี้กลับเป็นอีกภาพ แม้ว่าแท็กติกพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม อาร์เน่อ ยังเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และทีมยังมีศักยภาพในการใช้ลูกตั้งเตะเป็นอาวุธ ตัวอย่างคือประตูชัยจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือโอกาสใกล้เคียงในเกมกับพาเลซ

เขาย้ำว่าการประชุมเรื่องเซตเพลย์ในตอนนี้ใช้เวลาพอ ๆ กับการประชุมแท็กติกทั้งทีม นั่นแสดงให้เห็นว่าฟุตบอลพรีเมียร์ลีกยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากเพียงใด และลิเวอร์พูลเองก็ต้องกลับมาให้ความสำคัญเช่นกัน

เส้นทางลุ้นแชมป์ยังอีกยาว แต่หากไม่เร่งแก้ไข ลูกตั้งเตะอาจกลายเป็นรอยรั่วที่ทำลายความได้เปรียบจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ที่เหนือกว่า และอาร์เซน่อลซึ่งใช้จุดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็พร้อมจะฉกฉวยความได้เปรียบขึ้นมาแทนที่ทันที



จากวันคืนดิวิชั่นล่างสู่พรีเมียร์ลีก : ผู้จัดการทีมที่วางรากฐานความยิ่งใหญ่ให้ไบรท์ตัน

แมนยูยังไม่ลงตัว เพราะระบบ 3-4-2-1 ของอโมริม

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า