แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้งในฤดูกาล 2025/26 เมื่อผลงานในสนามไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และหนึ่งในเป้าสายตาสำคัญที่ต้องรับแรงกดดันมากที่สุดก็คือ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสที่ถูกดึงตัวมาด้วยความหวังว่าจะคืนชีพให้กับทีม “ปีศาจแดง”
สถานการณ์ปัจจุบันของแมนยู ฤดูกาล 2025/26
- อันดับอยู่กลาง-ล่างของตารางพรีเมียร์ลีก
- ตกรอบลีกคัพตั้งแต่รอบ 2
- ไม่มีฟุตบอลยุโรปเป็นฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ปี 2014/15
- เกมรับยังมีปัญหา / เกมรุกขาดความสม่ำเสมอ
สถานการณ์เหล่านี้ทำให้แฟนบอลเริ่มตั้งคำถามว่า รูเบน อโมริม คือคนที่ใช่จริงหรือ?
จุดที่ทำให้ “รูเบน อโมริม” ต้องเจอแรงกดดัน
1.ผลงานไม่คงเส้นคงวา
แม้จะมีช่วงที่ทีมครองบอลได้ดี หรือมีระบบการเล่นชัดเจน แต่ “ผลลัพธ์” กลับไม่สะท้อนคุณภาพนั้น แมนยูเสียแต้มให้กับทีมเล็กหลายครั้ง และมีฟอร์มขึ้น ๆ ลง ๆ
2.ความคาดหวังจากแฟนบอลและสื่อ
แมนยูคือสโมสรที่มีฐานแฟนบอลทั่วโลก ความคาดหวังย่อมสูง และอดีตนักเตะอย่าง เวย์น รูนีย์ ยังออกมาวิจารณ์ว่า “ทีมยังไม่มีบุคลิกที่ชัดเจน”
3. ข่าวลือการเปลี่ยนโค้ช
มีข่าวลือว่าแมนยูจับตามอง ฟาเบียน เฮิร์ซเลอร์ (Fabian Hürzeler) จากไบรท์ตัน แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ แต่สื่อก็ยังคาดการณ์ว่า หากผลงานไม่ดีขึ้น อาจมีการเปลี่ยนโค้ชอีกครั้ง
4. ค่าใช้จ่ายการปลดโค้ช
แมนยูคือหนึ่งในสโมสรที่ “เปลี่ยนโค้ชบ่อยที่สุด” หลังยุคเฟอร์กูสัน โดยจ่ายเงินชดเชยไล่ผู้จัดการทีมไปแล้วหลายสิบล้านปอนด์ นี่เป็นแรงกดดันเชิงการเงินต่อสโมสรและตัวอมอริมเอง
สรุป: แมนยูวันนี้ อยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ
ฤดูกาล 2025/26 กำลังเป็นบทพิสูจน์สำคัญของทั้งสโมสรและตัวรูเบน อโมริมเอง เขาคือโค้ชที่มีไอเดียทันสมัย แต่แรงกดดันในพรีเมียร์ลีกและความกระหายของแฟนบอล อาจทำให้เขาต้องตัดสินใจสำคัญเร็วกว่าแผน
ไม่ว่าแมนยูจะเลือกไปในทิศทางไหน ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กำลังใกล้เข้ามา...
อาร์เตตา พอใจแต่ติดใจ! อาร์เซนอล เปิดบ้านอัดโอลิมเปียกอส 2-0 ขึ้นที่ 5 UCL
เฟเนร์บาห์เช่ vs นีซ ( ยูโรป้า ลีก ) วันพฤหัสบดีที่ 02 ตุลาคม 2568







แสดงความคิดเห็น