น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ การคัมแบ็กที่รอคอยกว่า 23 ปี สู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

หากจะพูดถึงหนึ่งใน “ทีมระดับตำนาน” ของวงการฟุตบอลอังกฤษที่ต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่ในลีกรองนานนับทศวรรษ ก่อนจะหวนคืนสู่เวทีพรีเมียร์ลีกได้ในที่สุด  ชื่อของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest)

จากความรุ่งเรือง สู่ความเงียบงัน

ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 70s ถึงต้น 80s น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คือหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุโรป ภายใต้การคุมทีมของกุนซือระดับตำนานอย่าง ไบรอัน คลัฟ พวกเขาไม่เพียงแค่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเท่านั้น แต่ยังคว้า ยูโรเปียนคัพ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเดิม) ได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน (ปี 1979 และ 1980)

แต่หลังจากคลัฟอำลาทีมในปี 1993 ความรุ่งโรจน์ก็เริ่มจางหาย ฟอเรสต์ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1998–99 และนับจากนั้นก็กลายเป็น “ทีมล่องหน” อยู่ในลีกแชมเปียนชิพและลีกวัน ยาวนานถึง 23 ปี

จุดเปลี่ยนในฤดูกาล 2021–22

ในฤดูกาล 2021–22 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เริ่มต้นซีซั่นได้ย่ำแย่ จมอยู่ท้ายตารางในช่วง 8 นัดแรก จนต้องปลดผู้จัดการทีม และแต่งตั้ง สตีฟ คูเปอร์ (Steve Cooper) เข้ามาแทน

จากจุดนั้น ทุกอย่างพลิก! ทีมเริ่มไต่จากโซนตกชั้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนจบอันดับที่ 4 ของตาราง และได้เข้าไปเล่นใน รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น

ในรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟที่เวมบลีย์ ฟอเรสต์เฉือนเอาชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ไปได้ 1-0 ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ทำให้ทีม เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกในรอบ 23 ปี นับเป็นการคัมแบ็กครั้งประวัติศาสตร์ที่แฟนบอลทั่วอังกฤษปรบมือให้

ความหมายที่มากกว่า "ชัยชนะ"

การกลับมาของฟอเรสต์ไม่ได้หมายถึงแค่โอกาสใหม่ในลีกสูงสุด แต่ยังเป็นการฟื้นคืนศักดิ์ศรีของสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ เป็นการตอบแทนแฟนบอลที่รอคอยมานาน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมอื่น ๆ ที่กำลังล้มอยู่ในลีกล่างว่า "อย่ายอมแพ้"





Post a Comment

أحدث أقدم